สุขภัณฑ์ประเภทต่างๆ

ประเภทของอ่างล้างหน้าแยกตามการติดตั้ง
- อ่างล้างหน้าแบบแขวนกับผนัง จะยึดขอเกี่ยวรับอ่างล้างหน้าไว้ ที่ผนังซึ่งใน การก่อสร้าง ควรทำคานเอ็น ในบริเวณ ที่จะยึด เพื่อความแข็งแรง
- อ่างล้างหน้าแบบติดตั้งบนเคาน์เตอร์มี 2 แบบ คือ
1. อ่างล้างหน้าแบบฝังในเคาน์เตอร์ มีข้อดีคือ สามารถตกแต่งหน้าเคาน์เตอร์ได้เรียบร้อย และเก็บงานเดินท่อต่าง ๆได้เรียบร้อย แต่มีข้อเสีย คือ ต้องใช้วัสดุปู
หน้าเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ และต้องเจาะรูสำหรับการติดตั้งหัวก๊อก และเมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจมีน้ำซึมด้านใน ทำให้เกิดเป็นคราบเขียว
2. อ่างล้างหน้าแบบวางบนเคาน์เตอร์ เป็นแบบที่นิยมโดยทั่วไป การบำรุงรักษาทำได้ง่ายกว่า สามารถถอดซ่อมได้และ การติดตั้ง ทำได้ง่าย ไม่ต้องเจาะรู สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ
ส่วนประกอบอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอ่างล้างหน้าคือ สะดืออ่าง โดยทั่วไปมักจะเป็น แบบจุกยาง ที่มีสายโซ่ร้อย การใช้งานสะดวก แต่อาจเกิดปัญหา การสูญหาย และเมื่อใช้นานๆไปจุกยาง จะเสื่อมและขังน้ำได้ไม่ดี สะดืออ่าง อีกประเภทหนึ่งเป็นแบบ Pop Up คือ มีกล-ไกในการเปิดปิดง่าย และสะดวกแต่มีปัญหา
เรื่องการอุดตัน เนื่องจากเศษผง เส้นผม และฟองสบู่ลงไปจับตัวกันบริเวณก้านของ Pop Up ต้องหมั่น ขจัดเศษสกปรก เหล่านี้บ่อย ๆ นอกจากสะดืออ่าง แล้วยังมีท่อน้ำทิ้งใต้อ่างล้างหน้าที่นอกจาก จะมีคุณสมบัติในการระบายน้ำ แล้วยังเป็นอุปกรณ์กันกลิ่นย้อน และเป็นตัวดักเศษผงไม่ให้ลงไปอุด ตันในท่ออีกด้วย ท่อน้ำทิ้งใต้อ่างมี 2 รูปแบบคือ ท่อน้ำทิ้งแบบกระปุก และท่อน้ำทิ้งแบบ P-Trap (ใช้ต่างกันอย่างไรข้อดี-ข้อเสีย และความสะดวกในการทำความสะอาด)
ปัญหาของการใช้สุขภัณฑ์
สาเหตุและการแก้ไข
1. โถชักโครกแบบ Flush Tank จะต้องหมั่นตรวจสอบดูแลอุปกรณ์ที่อยู่ในถังพักน้ำ ซึ่งมักจะมีปัญหาเช่น ตั้งคันโยก ไว้ต่ำเกินไปแหวนยางเสื่อมทำให้น้ำรั่วหรือมีน้ำไหลตลอดเวลา
2. ปัญหาน้ำขังที่พื้นห้องน้ำ มักเกิดขึ้นและมีสาเหตุจากการไม่ได้ปรับระดับความลาดเอียง ที่พื้นให้ดี ตั้งแต่ขั้นตอน การก่อสร้างหรือมีตำแหน่ง ท่อระบายน้ำ ที่พื้นไม่เพียงพอ เมื่อมีน้ำขัง ที่พื้นจะ ก่อให้เกิดคราบ ตะไคร่ ซึ่งทำให้พื้นลื่น และไม่สะอาดถูกสุขอนามัย การแก้ไขอาจจะต้องแยกพื้นที่ในห้องน้ำเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจน เมื่อทำความสะอาด ก็จะต้องทำให้แห้งทันที
3. ข้อต่อท่อ ไม่ว่าจะเป็นท่อน้ำดีหรือ ท่อ P-Trap ใต้อ่างล้างหน้าอาจหลวมทำให้น้ำหยดซึ่งสิ้นเปลืองน้ำ ดังนั้น จะต้องหมั่น ดูแลรักษา หากพบว่า ข้อต่อท่อ จุดใดมีปัญหาควร รีบซ่อมแซม
4. อ่างล้างหน้ามักมีปัญหาอุดตัน เนื่องจากเศษอาหาร ดังนั้นไม่ควรล้างภาชนะที่มีเศษอาหารในอ่างล้างหน้า หรือหาก จำเป็นจริง ๆ ควรมี ถ้วยกรองเศษ อาคารติดไว้ที่สะดืออ่าง เมื่อล้างภาชนะเสร็จแล้ว ก็นำเศษอาหาร ไปทิ้งใน ถังขยะ
5. ปัญหาเรื่องกลิ่น ซึ่งอาจเกิดจากการขาดการรักษาความสะอาด หรือ อาจจะมีปัญหาที่ระบบท่อ เช่นบริเวณ ท่อระบายน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อ่างล้างหน้า ที่สุขภัณฑ์ หรือ ที่พื้นเกิดจาก การไม่ได้ติดตั้ง ถ้วยดักกลิ่นเอาไว้ ทำให้เกิดปัญหากลิ่นย้อนกลับเข้ามา ในห้องน้ำ
6. ชักโครกราดไม่ลง ส้วมเอ่อ ซึ่งอาจเกิดจากประสิทธิภาพ ของระบบบำบัดไม่สอดคล้องกับปริมาณของผู้ใช้ หรือใช้ระบบบำบัดแบบบ่อเกรอะ-บ่อซึม ซึ่งอาจเกิดปัญหา ส้วมเต็ม การแก้ไขเบื้องต้นอาจทำโดย การเรียก บริการรถสูบส้วม และสังเกตอาการต่อไปอีก สาเหตุของปัญหาเรื่องชักโครกไม่ลง อาจเกิดจาก ไม่มีการติดตั้งท่ออากาศ หรือท่ออากาศ มีการอุดตันหรือมีขนาดเล็กเกินไป
7. การติดตั้งอ่างล้างหน้า จะต้องติดตั้งให้เรียบร้อยแน่นหนา อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง จะต้องยึดอุปกรณ์ เกี่ยวให้แข็งแรง และคอยตรวจสอบไม่ให้เกิดสนิม ส่วนอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว จะต้องยึดอ่างกับเคาน์เตอร์ด้วยปูนยาแนว หรือหากปูนยาแนวมีการแตกออก ก็ควรซ่อมแซมได้ง่าย ๆ ด้วยซิลิโคนชนิด Sanitary Silicone ซึ่งมีคุณสมบัติกันชื้นและเชื้อราได้
8. สายของฝักบัวสายอ่อนมักจะหักพับ หรือแตก เนื่องจากการติดตั้งที่ผิดวิธีโดยให้ส่วนที่ปล่อยน้ำดีจากก๊อกหงายขึ้น สายจะพับง่ายและแตก
ระบบท่อน้ำ - สุขภัณฑ์
สวัสดีครับชาวบล็อกทุก ๆ ท่าน และ ต้องขอขอบคุณทุก ๆ ท่านด้วยที่ได้แวะมาเยี่ยมเยียน บล็อก " ร้าว รั่ว ร้อน " ของผม วันนี้ เราจะมาพูดคุยกันถึง ระบบท่อน้ำ - สุขภัณฑ์
ท่อน้ำที่ใช้ภายในบ้านมีมากมายหลายชนิด แต่ที่นิยมมากที่สุด ในการนำมาใช้กับบ้านพักอาศัย คือ ท่อพีวีซีสีฟ้า ชั้นคุณภาพ ๑๓.๕ , ๘.๕ และ ๕ ซึ่งเป็นท่อน้ำดี
ส่วนบ้านหลังไหนจะใช้ท่อน้ำชั้นคุณภาพใด ขึ้นอยู่กับวิศวกรผู้ออกแบบบ้านหลังนั้นจะกำหนด
มาตรฐานเกี่ยวกับระบบท่อน้ำ กำหนดเอาไว้
1. ท่อพีวีซีสีฟ้า คือ ท่อน้ำดี หมายถึงท่อ ที่ใช้รับแรงดัน เช่น ท่อที่ต่อไปยังฝักบัว ท่อที่ต่อไปยังก๊อกน้ำภายในบ้าน เป็นต้น
2. ท่อพีวีซี สีเทา คือ ท่อน้ำทิ้ง หมายถึงท่อที่ไม่มีแรงดัน เช่น ท่อน้ำทิ้งจากอ่างล้างหน้า เป็นต้น
3. ท่อพีวีซีสีเหลือง คือ ท่อร้อยสายไฟภายในบ้าน
ส่วนท่อน้ำร้อน จะใช้ท่อทองแดง ท่อ PB. สีดำ หรือ แบ๊บน้ำที่เรียกว่า ท่อ GSP ก็ได้ จะเลือกใช้ท่ออะไรนั้น วิศวกร และ ผู้ออกแบบบ้านพักอาศัยหลังนั้น จะเป็นผู้กำหนดให้เหมาะสม แต่ที่สำคัญ คือ การติดตั้งเครื่องทำความร้อน จะต้องดูแลข้อต่อต่าง ๆ เป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดที่เกิดการรั่ว - ซึม ได้ง่าย
โดยมากแล้ว ระบบท่อน้ำจะถูกซ่อนไว้ใต้อาคาร, ในผนัง หรือใต้พื้น หากมีการรั่ว - ซึม จะสังเกตยาก ทำให้เราต้องจ่ายค่าน้ำมากกว่าปกติ เพื่อลดจุดบกพร่องต่าง ๆ โดยเฉพาะรอยต่อทุกจุดของระบบ
จากมิเตอร์ของการประปา ถึงปั๊มน้ำในบ้าน ก็ควรมีถังพักน้ำ เพื่อรองรับน้ำ ไม่ควรสูบน้ำโดยตรงจากเส้นท่อ เพราะมีผลเสียหลายประการ เช่น ถ้าบริเวณนั้นน้ำไหลน้อย เครื่องสูบน้ำก็ปั๊มอากาศเข้าไปมาก มิเตอร์ก็จะหมุน เหมือนมีการสูบน้ำเข้าไป หรือปั๊มน้ำจะทำให้แรงดันในเส้นท่อลดลง ประกอบกับรอยต่อของเส้นท่อบางจุดรั่ว ก็จะดูดน้ำสกปรกจากภายนอก เข้าไปในเส้นท่อได้ เป็นต้น
ส่วนข้อระวังของการติดตั้งสุขภัณฑ์ ควรติดตั้งตามคำแนะนำ ในคู่มือของแต่ละยี่ห้ออย่างละเอียด เพราะหากละเลยจุดหนึ่ง จุดใดไป อาจเป็นสาเหตุ ทำให้สุขภัณฑ์มีปัญหาภายหลังการติดตั้งได้ เช่น ชักโครกแล้วไม่มีน้ำเอ่อหล่อเลี้ยงในโถชักโครก หรือน้ำไหลลงชักโครกตลอดเวลา เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น